บัวลอยน้ำขิงงาดำ เมนูของหวานเพื่อสุขภาพ

ประเทศไทย คือ ประเทศแห่งขนมหวาน คำพูดนี้ไม่เกินจริง เพราะไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่ขนมหวาน ทั้งขนมหวานน้ำกะทิร้อน เย็น, น้ำแข็งไส, เค้ก, ขนมปัง, น้ำชง หรือ ขนมหวานประเภททองต่างๆ มีอยู่แถบทุกมุมถนนเลยก็ว่าได้ เป็นเพราะอะไรกันนะ? เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินสำนวนสุภาษิต "กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่" หมายถึงการดูถูกผู้ที่มีฐานะทางสังคมต่ำกว่า เพราะบ่าวไพร่ในอดีตไม่มีโอกาสได้กินของหวานต่างจากคนที่มีฐานะสูงกว่านั่นเอง และทุกวันนี้ประโยคดังกล่าวก็กลายมาเป็นพฤติกรรม หรือธรรมเนียมการรับประทานอาหารของผู้คนที่พอกินอาหารมื้อหลัก หรืออาหารคาวเสร็จมักจะอยากกินของหวานตาม เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า ถึงทำให้คนไทยติด "ขนมหวาน"

ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม ขนมหวานก็อร่อยจริงๆนั่นแหละ แต่น้ำตาลในขนมก็เยอะไม่แพ้ความอร่อยเลย และของอร่อยที่ชื่อ “น้ำตาล” [1]  คือสิ่งที่อันตรายมากๆ ยิ่งทานบ่อยๆเข้า ก็ยิ่งอันตรายต่อร่างกาย  เพราะน้ำตาลที่ใช้ทำขนม คือน้ำตาลเชิงเดี่ยว เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป น้ำตาลจะเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เลือดมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เลือดมีสภาวะเป็นกรดมากเกินไป ร่างกายเกิดความไม่สมดุล สาเหตุของการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามมา

และช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่าคนไทยมีสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเพิ่มมากเรื่อย ๆ [2] สภาวะร่างกายที่มีน้ำตาลในเลือดสูงจะมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และไม่ได้รับการรักษานั้นอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน โดยส่งให้เส้นประสาท หลอดเลือด หรืออวัยวะต่าง ๆ ถูกทำลายจนมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาได้ ทั้งยังเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย ทั้งนี้การดูแลสุขภาพทั่วไป เราต้องหาทางแก้ไขเสียก่อนที่จะเกิดภาวะปัญหาในร่างกาย

ในปัจจุบันเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ และการดูแลตัวเองกันมากขึ้น สมัยนี้จะทานอะไรก็ต้องเลือกแล้วเลือกอีก เพราะต้องดีกับสุขภาพ แต่ก็ต้องอร่อยด้วย เมนูวันนี้จึงอยากนำเสนอเมนู "บัวลอยน้ำขิงงาดำ" ซึ่งเป็นเมนูหวานที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเมนูที่เป็นมิตรกับสุขภาพ ทานเช้า ๆ ก็ปลุกร่างกายให้พร้อมรับวันใหม่ได้อย่างดี หรือ จะทานช่วงมื้อค่ำ ก็เบาสบายท้อง ไม่อืดแน่นท้อง แถมยังหลับสบายอีกด้วย ก่อนจะเข้าสู่รายละเอียดของเมนู บัวลอยน้ำขิงงาดำ ไปรู้จักที่มา ที่ไป ของเมนูนี้กันก่อน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ทำไมคนไทยถึงนิยมทานกันมากๆ

บัวลอยน้ำขิง [3] เป็นเมนูของว่างที่ไทยได้รับอิทธิพลมาจากจีน “บัวลอย” เป็นอาหารที่คู่กันมากับหลากหลายเทศกาลของจีน นอกจากอร่อยแล้ว ความกลมของบัวลอยยังเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัว รักใคร่กลมเกลียว ความสุขและความโชคดี และในเทศกาลหยวนเซียวนี้จะขาด “บัวลอย” ไปไม่ได้ บัวลอย คือ สัญลักษณ์ที่คนจีนโบราณใช้แสดงออกถึงความปรารถนาและอนาคตที่มีความสุขสดใส  ตามประวัติศาสตร์แล้ว ประเทศจีนนิยมรับประทานบัวลอยในเทศกาล 元宵 (yuán xiā) “หยวนเซียว” เรียกกันดั้งเดิมว่า "ชือหยวนเซียว" (吃元宵 ,菜饭吃) หรือ เทศกาลโคมไฟ ซึ่งเทศกาลโคมไฟ มักจะจัดขึ้นหลังตรุษจีน โดยจะตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือนแรกของปฏิทินจันทรคติ ในเทศกาลโคมไฟนี้จะมีการประดับประดาบ้านเรือนด้วยโคมไฟ ให้มีความสว่างไสวเพื่อขอบคุณเทพเจ้า มีความเชื่อว่าเทพเจ้าจะนำมาซึ่งความสุข ความกลมเกลียวมาให้ ผู้คนทางตอนเหนือของจีนให้ความสำคัญกับกิจกรรมในวันนี้ มากกว่าคนจีนทางใต้  ในวันเทศกาลก็จะมีการรับประทานขนมที่มีชื่อว่า 元宵 (yuán xiā) “หยวนเซียว” ชื่อเดียวกับเทศกาล หรือ 汤圆 (tāng yuán) “ทังหยวน”  และส่วนชาวจีนในไทยก็จัดงานในเทศกาลนี้บ้าง โดยนำโคมแดงหลากหลายรูปแบบมาตกแต่งอาคารบ้านเรือน และศาลเจ้า เพื่อสร้างสีสันเทศกาลตรุษจีน และมักจะทาน “ตั่วอี๊” บัวลอยจีน ในวันนั้นด้วย

ความแตกต่างของขนม “หยวนเซียว” “ทังหยวน”  หรือ “ตั่วอี๊” [4]
“หยวนเซียว” "ทังหยวน”  หรือ “ตั่วอี๊”  เป็นขนมหวานที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำแล้วนำไปปั้นเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นนำไปต้มแล้วเสิร์ฟในน้ำร้อน น้ำร้อนที่นิยมรับประทานได้แก่ น้ำขิง มีหลายขนาดซึ่งขึ้นอยู่กับผู้รับประทาน อาจสอดไส้หรือไม่สอดไส้ก็ได้ ไส้ที่นิยมรับประทานได้แก่ เช่น งานแต่งงาน ในประเทศไทย ยฺเหวียนเซียวที่สอดไส้งาดำในน้ำขิง มักเรียกว่า "ขนมบัวลอยน้ำขิง"
 
ขนมหยวนเซียว 元宵 เรียกอีกอย่างว่าเกี๊ยวข้าวเหนียว เป็นขนมบัวลอยของจีนทางตอนเหนือ ลักษณะของขนมหยวนเซียว จะเป็นลูกกลมๆมีไส้ มักจะใช้เป็นไส้หวาน เช่น งาดำคลุกน้ำตาลทราย ใส่น้ำมันหมูที่กำลังร้อนลงผสมคลุกเคล้าให้ทั่ว นำแช่ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง ให้งาดำจับตัวแข็ง และนำออกมาปั้นเป็นก้อน ในส่วนของแป้งที่ห่อ จะไม่ใช้การห่อแป้งเหมือนบัวลอย แต่จะใช้แป้งข้าวเหนียวผสมแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย ใส่จานแบนๆ และนำไส้งาดำที่ปั้นเป็นก้อน วางลงไปบนแป้งที่ผสมไว้ แล้วกลิ้งคลุกให้ติดแป้งข้าวเหนียวทั่วทั้งลูก เมื่อแป้งข้าวเหนียวเกาะจับก้อนงาดำทั่วลูกแล้ว นำก้อนงาดำที่ติดแป้งใส่กระชอนจุ่มในน้ำต้มสุก แล้วสลัดน้ำจนหมาด เทลงในแป้งเพื่อคลุกอีกครั้ง ทำซ้ำหลายๆครั้ง จนแป้งเกาะจับกันหนาตามต้องการ จากนั้นนำไป ต้ม นึ่ง หรือ ทอด จะได้ขนมหยวนเซียวตามที่ต้องการ

ขนมทังหยวน（汤圆）เป็นขนมดั้งเดิมของชาวจีนทางตอนใต้ ที่มาของชื่อ ทังหยวน  คือ “ทัง” แปลว่า น้ำร้อน  “หยวน” แปลว่า กลม “ทังหยวน” แปลรวมๆกันว่า “กลม ๆ ในน้ำร้อน” ซึ่งขนมชนิดนี้ ทำจากแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมๆ และใส่ไส้ ไส้มี ทั้งแบบคาว และแบบหวาน เช่น งาดำ ถั่วแดง ถั่วกวน น้ำตาล หรือ ผลไม้ต่างๆ  เริ่มจากนวดแป้งข้าวเหนียวให้ขึ้นรูป ใช้นิ้วมือบีบๆกดๆก้อนแป้งให้เป็นแผ่นกลม จากนั้นก็ห่อไส้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นก็นำไปต้ม ปรุงด้วยน้ำตาลทราย ทังหยวนจะใช้การต้มวิธีเดียว ไม่นำไปทอดหรือนึ่ง ตามชื่อที่อธิบายไปข้างต้น 

ขนมตั่วอี๊ (丸仔) หรือ เรียกแบบไทย ๆ คือ ขนมบัวลอย มีลักษณะเป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ คล้ายกับบัวลอยไทยแต่ขนาดใหญ่กว่า ทำจากแป้งข้าวเหนียว คนจีนดั้งเดิมมักจะทำเป็นสีขาวและสีชมพู  นำไปต้มจนสุก แล้วนำลงไปต้มอีกครั้งในน้ำเชื่อม พบเห็นบ่อยในงานแต่งงาน พิธียกน้ำชาของคนไทยเชื้อสายจีน แต่ปัจจุบันชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ในประเทศไทย ได้ริเริ่มพัฒนาเพิ่มสีสันให้หลากหลายดูสวยงาม และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นโดยทำจากฟักทอง ใบเตย และเผือก คล้ายๆบัวลอยน้ำกะทิของไทยที่เรารับประทานกัน 

และจากข้อมูลข้างต้น คงทำให้ทราบเรื่องราวความเป็นมาของ ขนมบัวลอยน้ำขิงงาดำ มากขึ้น ว่าขนมหวานเพื่อสุขภาพ ที่เราได้พบเห็น และได้ทานกันอยู่บ่อยๆ มีที่มา ที่ไปอย่างไร? และถ้าหากว่าอยากทำบัวลอยน้ำขิงงาดำ ก็ไม่ต้องรอจนถึงเทศกาล “หยวนเซียว” หรือ “เทศกาลตรุษจีน” เหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะสามารถทำทานเองตามสูตร ด้านล่างได้เลย ทำเองได้ง่ายๆ ขอบอกว่าอร่อยมาก และได้ประโยชน์แบบสุดๆ ที่สำคัญดีต่อสุขภาพด้วย ง่ายๆแค่มีน้ำขิง ฮอทต้า สูตรเข้มข้น ผสมหญ้าหวานสกัด ก็เฮลตี้ดีต่อใจแล้ว
 
สูตรบัวลอยน้ำขิงงาดำ เฮลตี้ดีต่อใจ

ส่วนผสม

• น้ำขิง ฮอทต้า สูตรเข้มข้น ผสมหญ้าหวานสกัด  2 ซอง
• แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
• น้ำเปล่าเย็น 1/3 ถ้วย
• น้ำตาลมะพร้าว 1ช้อน
• งาดำ 100 กรัม
• น้ำมันมะพร้าว
• เกลือเล็กน้อย 

วิธีทำ (ไส้งาดำ)

1. คั่วงาดำให้สุกหอม
2. นำงาดำไปโขกในครกจนละเอียด 
3. ตั้งกระทะ เทงาดำลงไป ตามด้วยใส่น้ำมันมะพร้าว ใส่เกลือ และน้ำตาลมะพร้าว ผัดทุกอย่างจนเข้ากันดี
4. นำงาดำที่ผัดเรียบร้อย ไปหยอดใส่พิมพ์น้ำแข็ง จนเต็ม (แนะนำให้ใช้ช่องขนาดเล็ก เพราะจะได้ขนาดบัวลอยที่กำลังดี)
5. นำไปแช่ช่องฟรีซ ประมาน 20 นาที 

วิธีทำ (แป้งบัวลอย)

1. นำแป้งข้าวเหนียว เทลงไปในภาชนะสำหรับคลุก 
2. เทน้ำขิงผง ฮอทต้า สูตรเข้มข้น ผสมหญ้าหวานสกัด ตามลงไป 1 ซอง เพื่อคลุกเคล้ากับแป้งข้าวเหนียว
3. เติมน้ำเปล่าเย็นตามลงไป จากนั้นนวดแป้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน สังเกตว่าแป้งนุ่มไม่ติดมือ เป็นอันเรียบร้อย (แนะนำให้ค่อยๆเทน้ำลงไป เพราะหากใส่น้ำเยอะจนเกินไป จะทำให้แป้งแฉะ ติดมือ ปั้นไม่ได้รูปทรงที่ต้องการ)
4. นำไส้งาดำ ออกจากช่องฟรีซ เพื่อประกอบร่างกับแป้งที่ทำการนวดไว้
5. หยิบแป้งมา 1 หยิบมือ แผ่แป้งให้แบน ใส่ไส้งาดำลงไปตรงกลางของแผ่นแป้ง ห่องาดำให้มิด และปั้นให้เป็นลูกกลมๆ ไปเรื่อยๆจนครบ
6. ตั้งหม้อต้มน้ำจนเดือด ใส่บัวลอยงาดำ ลงไปต้มจนสุก (จุดสังเกตว่าแป้งบัวลอยสุกหรือยัง คือ บัวลอยจะลอยขึ้นมา เนื้อแป้งบัวลอยจากแป้งขุ่นจะกลายเป็นใส)
7. ตักบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือน น้ำไปน็อคน้ำเย็นพักไว้ เพื่อไม่ให้แป้งติดกัน

วิธีทำ (น้ำขิง)

1. เทน้ำขิง ฮอทต้า สูตรเข้มข้น ผสมหญ้าหวานสกัด 1 ซอง ใส่ในถ้วย เติมน้ำร้อน 150 มล. คนจนละลาย (เหมาะสำหรับ ทำทาน 1 ถ้วย หากอยากชงดื่มเฉพาะน้ำขิง สามารถใช้สูตรนี้ได้เช่นกัน)
2. จากนั้นนำบัวลอย ที่พักไว้ ตักใส่ถ้วยน้ำขิง ที่ชงไว้ เป็นอันเสร็จสิ้น สามารถทานได้ทันที (แนะนำปริมานบัวลอย 3-4 ลูก ต่อ น้ำขิง 1 ถ้วย)

ได้ทราบถึงสูตร บัวลอยน้ำขิงงาดำ ไปแล้ว ก่อนจะไปเริ่มเข้าครัวกัน สมัยนี้จะรับประทานอะไรเข้าไปในร่างกาย แค่พูดว่าดีต่อสุขภาพ อาจจะยังไม่พอ จะทานเข้าไปในร่างกายทั้งที ก็จำเป็นจะต้องทำความรู้จักกับสารอาหารและประโยชน์ ที่คุณจะได้รับจากเมนูนี้กันก่อน ว่ามีในแต่ละวัตถุดิบหลัก มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง? บัวลอยน้ำขิงงาดำ เป็นเมนูที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ธัญพืช วัตถุดิบหลักของเมนูนี้คือ งาดำ และ ขิงแก่ และตามสูตรนี้ มีวัตถุดิบหลัก ส่วนผสม ที่ใช้คือ น้ำขิง ฮอทต้า สูตรเข้มข้น ผสมหญ้าหวานสกัด จึงนำประโยชน์ของหญ้าหวานมาฝากเพิ่มเติมด้วย 

ประโยชน์ของ น้ำขิง งาดำ และ หญ้าหวาน
   

• น้ำขิง (Ginger) [5] ขิงเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพราะขิงเป็นพืชสมุนไพร มีความสำคัญทางอาหาร และยังมีสรรพคุณทางยา ส่วนสำคัญในขิงสด คือ สารจินเจอร์รอล ที่มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินและแร่ธาตุสูง ทั้ง วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต  โปรตีน เส้นใยจำนวนมาก มีฤทธิ์ในการกระตุ้น การขับน้ำดี ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และสลายไขมัน บรรเทาอาการคลื่นไส้ แก้เมารถ  เมาเรือ แก้อาการแพ้ท้อง ช่วยต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค ในขิงสดมีมันหอมระเหย ช่วยเรื่องการผ่อนคลาย คลายเครียด ทำให้นอนหลับสบายอีกด้วย เพราะสรรพคุณที่มากมาย นับไม่ถ้วนของขิงสดนี้ จึงมักถูกนำมาประกอบอาหาร และ นำมาทำเป็นเครื่องดื่มอยู่บ่อยครั้ง เครื่องดื่มที่พบเห็นบ่อยคือ น้ำขิง นั่นเอง เพราะทำง่ายและได้ประโยชน์เยอะ ปกติน้ำขิงที่มักดื่มกันก็คงไม่พ้น น้ำขิงร้อน ขิงที่มักจะนำมาใช้ต้ม จะใช้เป็นขิงสด เลือกหัวที่แก่จัด หากใช้ขิงอ่อนจะมีรสขมติดมาด้วย และปัจจุบันก็นำขิงสดมาทำเป็นเมนูต่างๆมากมาย อย่างเช่น เมนูบัวลอยน้ำขิงงาดำ มันต้มน้ำขิง เต้าฮวยน้ำขิง แปะก๊วยต้มน้ำขิง น้ำขิงน้ำผึ้งมะนาว ฯลฯ หรือ แม้แต่เมนูเย็น ๆ อย่างบิงซูน้ำขิง ก็นิยมมาก ๆ ในหมู่วัยรุ่นปัจจุบันเช่นกัน

   

• งาดำ (Black Sesamin) [6] เป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินบีรวม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซียมและสังกะสี ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และวิตามินอีช่วยบำรุงผิวพรรณ เมื่อกินงาดำเป็นประจำจะช่วยให้กระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูนอิสระ ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการนำเอางาดำมาดัดแปลงเป็นอาหาร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลาย ๆ เมนู  นำไปเติมลงในอาหาร หรือแม้แต่นำไป ทำเป็นอาหารเสริมบำรุงสุขภาพอีกด้วย

   

• หญ้าหวาน (Stevioside) [7] เหตุที่เรียกว่าหญ้าหวานนั้น มาจากใบของมันที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 10 - 15 เท่า แต่เป็นความหวานที่ให้พลังงานน้อยมาก ไปจนถึงไม่ก่อให้เกิดพลังงานเลย และที่สำคัญสารสกัดที่ได้จากหญ้าหวานนั้น ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 200 - 300 เท่า มีข้อมูลยืนยันจากองค์การอนามัยโลกออกมาประกาศอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2552 ว่า หญ้าหวานนั้นปลอดภัย ทานได้หายห่วง และปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ได้มีการขึ้นทะเบียนให้สามารถใช้หญ้าหวาน เพื่อการบริโภคแทนน้ำตาลได้ ไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงใด ๆ และยังจัดอยู่ในหมวดพืชสมุนไพร เป็นความหวานทางเลือกยอดนิยม ที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และกลุ่มคนรักสุขภาพ ผู้ที่ควบคุมน้ำหนักและดูแลรูปร่าง เพราะ มีส่วนช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

ตามที่กล่าวมาจากข้างต้น สรุปได้ว่า “บัวลอยน้ำขิงงาดำ” เป็นเมนูที่นำเอาธัญพืชที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์อย่าง งาดำ ขิงแก่สด ที่มีสรรพคุณช่วย ขับลม แก้ท้องอืด ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เมนูบัวลอยน้ำขิงงาดำ ถึงจะไม่ใช่เมนูเพื่อการลดน้ำหนัก แต่ก็ถือว่าเป็นขนมของว่างเพื่อสุขภาพ ที่ให้คุณค่าทางอาหารและมีสรรพคุณทางยา เวลาทานจึงต้องพยายามจำกัดปริมาณในการทานด้วย และบริหารพลังงานจากอาหารในมื้ออื่นๆให้เหมาะสม หรืออาจลดความหวานลง หรือ ใช้น้ำขิง ฮอทต้า สูตรเข้มข้น ผสมหญ้าหวานสกัด เพราะให้ความหวานจากหญ้าหวานแทนน้ำตาล ให้พลังงานน้อยกว่า มีแคลอรี่ต่ำเพียง 35 แคลอรี่ ต่อซอง เหมาะสำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพมาก เพราะได้ประโยชน์เต็มๆ ได้ความเข้มข้น ทั้งกลิ่น และรสชาติ ของขิงแก่สดอายุ 11-12 เดือน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำขิงเข้มข้น หรือเป็นคอน้ำขิงแท้ ไม่ควรพลาด


ข้อมูลอ้างอิง
[1] อันตรายจากการกินน้ำตาลมากเกินไป 
[2] สภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
[3] เทศกาลหยวนเซียน
[4] ความเป็นมาของขนมหยวนเซียน
[5] น้ำขิง สรรพคุณ งานวิจัยทางการแพทย์
[6] สรรพคุณของงาดำ
[7] 6 สรรพคุณของหญ้าหวานสกัด ที่คุณอาจไม่เคยรู้